บัตเตอร์เค้ก คือเค้กเนยสด เป็นเค้กที่มีส่วนผสมหลักคือเนยสด ส่วนผสมหลักคือเนยสด แป้ง น้ำตาล และไข่ เพื่อให้ได้เค้กที่มีเนื้อหนักและมีกลิ่นหอม ทำให้ส่วนผสมของเค้กมีเนื้อแน่น แต่เบาและนุ่ม
บัตเตอร์เค้ก เป็นเค้กที่มีไขมันเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนผสมหลักอย่างอื่นคือ แป้ง นมและไข่ โดยการขึ้นฟูของเค้กขึ้นฟูด้วยการตีเนยกับน้ำตาลซึ่งทำให้ไขมันเก็บกักอากาศระหว่างตี จนมีลักษณะเป็นครีม ดังนั้นขั้นตอนการผสมแป้งจึงต้องทำอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้สูญเสียอากาศภายในส่วนผสม เนื้อเค้กมีความนุ่ม ละเอียดแต่แน่น เสมอกัน เช่น เค้กเนยสด เค้กผลไม้ เค้กมาเบิ้ลหรือหินอ่อน คัพเค้ก
เค้กเนยสดใช้วิธีการตีครีม โดยนำเอาเนยและน้ำตาลมาตีจนเนื้อเนียนเพื่อเก็บอากาศลงไปในเนย จากนั้นใส่ไข่ลงไป ตามด้วยการทยอยใส่ส่วนผสมเปียกและแห้งสลับกัน เค้กเนยสดไม่สามารถคงสภาพความแน่นและความชุ่มได้เมื่ออยู่ในตู้เย็น จึงต้องเพิ่มส่วนผสมเพื่อให้ทนต่อการแช่เย็นได้ เช่น ครีมชีส น้ำตาลไอซิ่ง และ pastry cream
สารบัญ เลือกอ่านทีละหัวข้อได้
- วัตถุดิบหลักของบัตเตอร์เค้ก
- ความแตกต่างระหว่างบัตเตอร์เค้กและเค้กปอนด์?
- เคล็ดลับการอบ
- สาระะเกี่ยวกับบัตเตอร์เค้ก
- สูตรบัตเตอร์เค้ก
- วิธีการทำบัตเตอร์เค้กแบบง่ายๆ
- ข้อมูลโภชนาการ
รับจัด ชุด snack box ขนมแจกงานศพ สั่งด่วนวันนี้ได้ทันที วันนี้ เริ่ม 30
วัตถุดิบหลักของบัตเตอร์เค้ก
บัตเตอร์เค้ก มีส่วนประกอบโดยทั่วๆไปคือ เนยสด ไข่ แป้งเค้ก นม และน้ำตาล
- เนยสด
- แป้งเค้ก
- น้ำตาล
- เกลือ
- ไข่
- โยเกิร์ตหรือนม
- ผงฟู
- วานิลลา
อะไรคือความแตกต่างระหว่างบัตเตอร์เค้กและเค้กปอนด์?
สมัยก่อนการทำเค้กปอนด์ นิยมใช้เนื้อเค้กเป็นบัตเตอร์เค้กเป็นหลัก หรือคือเค้กที่คิดน้ำหนักเป็นปอนด์ คือเค้กที่ใส่พิมพ์ เค้กทั้งสองอย่างมีความคล้ายคลึงกันมากเนื่องจากใช้ผงฟูเป็นหัวเชื้อ เค้กปอนด์คือชื่อนี้เพราะสูตรดั้งเดิมต้องใช้ส่วนผสมหลักสามอย่างอย่างละ 1 ปอนด์: เนย แป้ง และน้ำตาล
บัตเตอร์เค้กมีขนาดแตกต่างกันเล็กน้อย (ไม่เท่ากันในอัตราส่วน 1:1:1) แต่ส่วนผสมจะคล้ายกัน โดยบัตเตอร์เค้กนิย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆบางๆ เหมาะสำหรับการกินกับกาแฟ หรือจัดเป็นขนมเบรค ที่ไม่ต้องการกินให้อร่อย
เคล็ดลับการอบ
บัตเตอร์เค้กคือเค้กที่ใช้เนยเป็นส่วนผสมหลัก การใช้เนยที่มีคุณภาพสูงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะเนยคุณภาพสูง จะให้กลิ่นและรสชาติของเค้กที่แตกต่างอย่างชัดเจน กลิ่นหอมของเนยสดคุณภาพดี จะเพิ่มความอยากลองชิมเค้กชิ้นนั้นๆได้ และยังสามารถเพิ่มราคาของเค้กชิ้นนั้นๆได้อีกด้วย
การใช้เครื่องผสม แนะนำเครื่องที่มีกำลังแรงมากๆหน่อย เพราะการตีผสมบัตเตอร์เค้ก ซึ่งเป็นเค้กที่มีความเหนียวหนืด และยังใช้เวลานานในการผสมแป้ง ซึ่งมีทั้งสูตรขั้นตอนเดียวและสองขั้นตอน จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องผสมที่มีกำลังแรงมากนั้นเอง
ร่อนแป้งเพื่อให้แป้งเค้กเนียน และง่ายต่อการทำ หลักการทำเบเกอรี่ทุกชนิดแนะนำและควรร่อนแป้งทุกครั้งก่อนการผลิต มีหลายเหตุผลที่แนะนำ แต่เหตุผลหลักเลยอันดับแรก การร่อนแป้งจะทำให้แป้งเค้กนุ่มเบา มีการสะสมของอากาศได้ง่ายขึ้น และยังสามารถคัดกรองแป้งเค้กที่จับตัวกันเป็นก้อนเพราะความชื้นได้อีกด้วย
แม้ว่าหลายๆสูตรจะใช้นมเป็นส่วนประกอบ แต่เราแนะนำให้ใช้โยเกิร์ตแทนได้ โยเกิร์ตสามารถทำให้เค้กนุ่ม ฟู และชุ่มชื้นมากกว่าการใช้นมสด
เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าเค้กไหม้ หรือเป็นสีน้ำตาลเข็มเกินไป เพราะบัตเตอร์เค้กจะต้องใช้เวลาอบนามมากว่าเค้กชนิดอื่นๆ จึงมีโอกาสที่หน้าเค้กจะไหม้ได้ วิธีป้องกัน ขณะอบปิดหน้าด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ สำหรับห่ออาหารก็สามารถช่วยได้
ห้ามเปิดเตาอบเมื่อเค้กกำลังเข้าอยู่ในเตาอบ การเปิดประตูเตาอบจะทำให้เตาอบสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็วซึ่งจะทำให้ เค้กจะขึ้นไม่พอดี
หากคุณปิดด้านบนของเค้กด้วยฟอยล์อลูมิเนียม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแป้งเค้กไม่ติดมัน
เคล็ดลับอีกอย่างคือการอบลองน้ำ การที่บัตเตอร์เค้กต้องใช้เวลาอบที่นานมากกว่าเค้กชนิดอื่นๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ก้นเค้กจำเกิดไหม้ได้ การอบลองน้ำช่วยได้ โดยการนำกระดาษแผ่นบางๆแช่น้ำให้ชุ่มน้ำ แล้วนำมาวางที่ก้นถาดอบ วิธีนี้สามารถช่วยให้ก้นขนมที่โดนไฟนานๆ ไม่ไหม้ไฟได้ อบออกมาสวยงาม
สาระะเกี่ยวกับบัตเตอร์เค้ก
บัตเตอร์เค้ก แม้ว่าการอบเค้กชนิดนี้นิยมอบด้วยพิมพ์ขนาดใหญ่ และเนื้อเค้กจะแน่นมากกว่าเค้กชนิดอื่น และมักนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ การนำบัตเตอร์เค้กไปแช่เย็นไม่เป็นที่นิยม เค้กจะแข็ง การเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องแล้วตัดเสิร์ฟธรรมดาๆจะนิยมมากกว่า ง่ายๆเพียงแค่ห่อด้วยฟอยล์หรือแล็ป ก็สามารถวางไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ถึง 3 วัน เมื่อจะกินเค้กก็นำมาตัด
มีหลายๆท่านอยากจะเพิ่มส่วนผสมบางอย่างลงไปในเนื้อเค้ก มีการเพิ่ม ผลไม้แห้งชนิดต่างๆลงไปได้อย่างง่ายดาย เช่น ลูกเกด ลูกพรุน ตัดแบ่งเป็นชิ้นหนาประมาณ 10 เซนติเมตร กินกับชากาแฟอร่อยมาก
สูตรบัตเตอร์เค้ก
เวลาเตรียม 10 นาที
เวลาทำอาหาร 50 นาที
เวลารวม 1 ชั่วโมง
- แป้งเค้ก 200 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- เนยสด 225 ก ที่อุณหภูมิห้อง
- น้ำตาล 200 กรัม
- ไข่ไก่เบอร์ หนึ่ง 4 ฟอง
- วานิลลาผง 1 ช้อนชา
- โยเกิร์ตรสธรรมดา 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำบัตเตอร์เค้กแบบง่ายๆ
- ขั้นแรกเลยต้องเตรียมพิมพ์อบ ขนาด 8*8นิ้ว ทาเนยบางๆให้ทั่วพิมพ์ พร้อมตัดกระดาษวางที่ก้นพิมพ์ พร้อมทาเนยบางๆทับอีกครั้งเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า
- เปิดเตาอบที่ 190 องศาเซลเซียส เตรียมเอาไว้ก่อนอบประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าจะได้อุณหภูมิที่ตั้งไว้
- เตรียมวัตถุดิบและส่วนประกอบต่างๆ ชั่งเนย ร่อนแป้งและผงฟูเข้าด้วยกัน ใส่เกลือและผสมให้เข้ากัน พักไว้
- ใช้เครื่องผสมแบบมือไฟฟ้า หรือ เครื่องผสมแบบตั้งพื้นก็จะทำให้ง่ายต่อการผสมแป้งมากขึ้น ตีเนยและน้ำตาลจนเข้ากันดีหรือมีสีเหลืองซีด ประมาณ 3 นาที ใส่ไข่ตีผสมให้เข้ากัน หลังจากเติมไข่แต่ละครั้งจนเป็นครีม ประมาณ 1 ถึง 2 นาที
- ขูดขอบโถ เพื่อให้แป้งที่ตีได้รับการผสมอย่างทั่วถึงเข้ากันดี
- เติมวานิลลาและผสมให้เข้ากัน
- ใส่แป้งที่ร่อนเตรียมไว้ และผสมให้เข้ากันกับเนยที่ตีผสมก่อนหน้า ใส่โยเกิร์ตธรรมดาหรือนมสดก็ได้
- เทแป้งลงในพิมพ์อบที่ทาเนย เขย่าเบาๆ และเคาะกับพื้นโต๊ะ เพื่อกระจายแป้งเค้กได้อย่างสม่ำเสมอ อบจนเป็นสีน้ำตาลทองและสุกประมาณ 50 นาที
- เพื่อป้องกันไม่ให้ด้านบนของเค้กไหม้ ให้ปิดด้านบนของพิมพ์อบด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์
- เมื่ออบไปประมาณ50นาที ทดสอบเค้กว่าสุกหรือยังด้วยการใช้ไม้จิ่มฟันแทงลงไป แล้วดึงขึ้นมาดูถ้าไม่มีเนื้อเค้กที่แฉะ ยังไม่สุกติดขึ้นมา เบาไฟลงเหลือประมาณ 160 องศาC แล้วอบต่vอีก 5-10 นาที
- นำออกจากเตาอบและแซะออกจากพิมพ์ ปล่อยให้เย็นบนตะแกรงประมาณ 30 นาที หั่นเป็นชิ้นแล้วเสิร์ฟได้
ข้อมูลโภชนาการ
ตัด12 ชิ้น
ปริมาณต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
แคลอรี่ 238
ไขมันทั้งหมด 17g
ไขมันอิ่มตัว 10g
คอเลสเตอรอล 95mg
โซเดียม 123mg
คาร์โบไฮเดรต 30g
ไฟเบอร์ 1g
น้ำตาล 17g
โปรตีน 4g