บราวนี่ใช่เค้กรึเปล่า? บราวนี่อาจเป็นฟัดจ์หรือเค้กกันแน่ เป็นคำถามที่คนทำขนมเค้กหลายๆคนยังสับสน แม้ว่าจะทำเค้ก หรือ บราวนี่มานานหลายปี ความสับสนในเรื่องนี้ก็ยังมีอยู่เสมอๆ บราวนี่มีส่วนคล้ายคลึงกับเค้กอย่างมากเมื่อดูจากลักษณะที่เห็น ความคล้ายกันนี้ยังรวมไปถึงรสชาติอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม บราวนี่มักจะเนื้อแน่นมากกว่าเค้ก เนื่องจากไม่มีเบกกิ้งโซดาและผงฟู นอกจากนี้ยังอบได้ง่ายกว่า
รับจัดขนมงานศพ สั่งด่วนวันนี้ได้ทันที เริ่ม 15 บาท ดูรายละเอียด
ประวัติของบราวนี่เริ่มเมื่อปี ค.ศ.1893
เริ่มที่โรงแรม Palmer House เซฟผู้หญิง Bertha Palmer ได้รับคำสั่งให้ทำขนมชิ้นเล็กที่กินง่ายๆ เป็นของหวานสำหรับผู้หญิง และสามารถเก็บได้ง่ายอีกด้วย หลังจากนั้นจึงได้ขนมชิ้นเล็กที่ขึ้นชื่อของโรแรมมาถึงปัจจุบัน บราวนี่ ที่มีส่วนผสมของ ช็อกโกแลตกับวอลนัทและแอปริคอตเคลือบ
เหตุผลที่บราวนี่และเค้กแตกต่างกัน
บราวนี่ไม่ใช่เค้กแน่อน มีความแตกต่งกันอย่างมากอย่างน้อย 6 ข้อ ส่วนผสม รสชาติ ลักษณะของผิวหน้า การตกแต่ง และความยากของการทำ
ส่วนผสมทั้งสองอย่างเค้กกับบราวนี่แตกต่างกัน
ส่วนผสมหลายๆอย่างอาจจะเหมือนกัน ทั้งแป้ง น้ำตาล และต้องคนผสมเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันชัดเจน สูตรการทำบราวนี่ส่วนใหญ่ไม่ต้องใส่สารที่มีลักษณะหัวเชื้อต่างๆเบกกิ้งโซดา ผงฟู แม้ว่าสูตรบราวนี่บางสูตรอาจใส่ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีปริมาณน้อยมาก จุดนี้คือจุดที่ต่างกันจุดแรก
รสชาติของทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างมาก
แม้ว่าทั้งขนมทั้งสองอย่างจะมีส่วนประกอบที่คุ้นเคยเหมือนกัน นั้นคือ ช็อกโกแลต ทั้งเค้กและบราวนี่มักทำจากช็อกโกแลต จนเป็นเรื่องปรกติ รสชาติของเค้กโดยทั่วไป จะนุ่ม นิ่ม ละมุนในการกิน แต่บราวนี่ต่างออกไป จะขนไม่นิ่ม และยังหนึบๆอีกต่างหาก
เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน
แม้ว่าหลายๆครั้งขนมทั้งสองอย่างสามารถตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆได้เหมือนกัน แต่ความแตกต่างที่สำคัญอย่างหนึ่งระหว่างบราวนี่กับเค้กคือเนื้อสัมผัส เค้กมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและนิ่ม บางครั้งให้ความรู้สึกว่าละลายในปากขณะกินเค้กได้เลย ต่างกับ บราวนี่มีเนื้อแน่นและเหนียวหนึบกว่า เนื้อแน่นหนึบคือส่วนสำคัญของบราวนี่นั้นเอง
การตกแต่งเพื่อความสวยงาม
บราวนี่ ไม่นิยมการตกแต่งเพิ่มความสวยงาม ในความน่ากินของบราวนี่นั้น เกิดจากช็อกโกแลตที่เน้นๆนั้นเอง คนส่วนใหญ่ชอบกินช็อกโกแลต เพียงแต่อาจจะมีการตกแต่งด้วยอัลม่อน หรือเมล็ดธัญพืช เท่านั้นเอง จะไม่มีการเพิ่มหน้าด้วยครีม หรือไอซิ่งต่างๆ
เค้กจะมีการตกแต่งเพื่อความสวยงามเป็นหลัก มีเทคนิคการแต่งหน้าเค้กที่หลากหลาย ไอซิ่ง วิปปิ้งครีม บัตเตอร์ครีมหนาๆ รวมถึงผลไม้ตามฤดูกาลอีกหลากหลาย และยังรวมถึงเทคนิคการปาดตกแต่งที่สวยงามอย่างยิ่ง
ขั้นตอนการทำที่ยากง่ายต่างกันอย่างมาก
คุณอาจจะแปลกใจเมื่อรู้ว่าสูตรการทำบราวนี่บางอย่างง่ายมาก เพียงแค่ใส่แป้งและส่วนผสมตามสูตร คนผสมให้เข้ากัน นำเข้าเตาอบก็สามารถมีบราวนี่แสนอร่อยกินได้แล้ว
ถ้าเป็นมือใหม่หัดทำ แนะนำหัดทำ บราวนี่ก่อนที่จะทำขนมเค้ก
แต่เค้ก ไม่ว่าชนิดไหนไม่สามารถทำเพียงแค่ใส่ส่วนผสมแล้วคนผสมให้เข้ากันแล้วอบออกมาเป็นเค้กได้ ความยากเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตีผสมด้วยเครื่องผสมแป้ง ซึ่งมีเทคนิคการตีในแต่ละแบบของการทำเค้ก การอบก็ยากกว่าอย่างมาก เค้กมีโอกาสจะเสียในขั้นตอนการอบมากกว่าบราวนี่ มาถึงการตกแต่งให้สวยงาม ต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก จึงจะทำการตกแต่งให้สวยงามได
ช่วงเวลาการกินต่างกันมาก
ไม่มีใครหยิบเค้กมานั่งกินทีละชิ้นไปเรื่อยๆ แต่บราวนี่คุณอาจจะหยิบบราวนี่กินในขณะนั่งดูหนังสบายๆที่หน้าจอทีวี นั้นคือความต่างที่สำคัญ บราวนี่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆหยิบกินได้เพลินๆ เค้กไม่สามารถตัดเป็นชิ้นเล็กๆแล้วหยิบกินแบบเพลินๆได้
ของขวัญในวันสำคัญ
เค้กมักจะได้รับการโปรโมทเป็นพิเศษในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันเกิด วันแต่งงาน วันครบรอบ รวมถึงการรับปริญญาบัตร ก็มักจะมีเค้กเป็นส่วนส่วนใหญ่มากกว่า บราวนี่ ซึ่งมักจะเป็นขนมที่กินเล่นๆเพลินๆ
คำถามที่ถามกันบ่อยๆ(FAQ)
Q.แป้งบราวนี่กับแป้งเค้กเหมือนกันไหม?
คล้ายกันแต่ไม่เหมือน การเปลี่ยนแป้งบราวนี่ให้เป็นแป้งเค้กก็โดยการ ลดส่วนที่เป็นไขมันและเพิ่มผงฟู และเพิ่มไข่อีก1ฟอง
Q.บราวนี่ถือเป็นเค้กหรือไม่?
บราวนี่ไม่ใช่เค้กแน่ๆ แต่จะใกล้เคียงกับคุ้กกี้มากกว่า หรือพูดง่ายๆเป็นส่วนผสมของเค้กกับคุ้กกี้นั้นเอง
Q.บราวนี่ต้องใช้ผงฟูไหม?
บราวนี่ไม่ต้องใส่ผงฟู การใส่ผงฟูในแป้งเพื่อทำให้เกิดการฟูและนุ่ม แต่บราวนี่ไม่ต้องการนุ่ม แต่ต้องการความแน่นหนึบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากเค้กอย่างชัดเจน
สรุป บราวนี่ใช่เค้กรึเปล่า
ไม่ใช่เค้ก แต่ความอร่อยไม่น้อยไปกว่ากัน อย่างหนึ่งเน้นแน่น หนึบ อีกอย่าง เน้นนุ่ม นิ่ม อร่อยคนละแบบ บราวนี่ทำง่ายกว่าเค้ก ขั้นตอนและเวลาการทำน้อยกว่า เหมาะกับมือใหม่มากกว่า